เมื่อวันอาทิตย์ ๑๙ มกราคม๒๕๖๓ พลโท ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ ๓/ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ ๓ ได้เดินทางมาติดตามสถานการณ์และแก้ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ เนินทรายกลางแม่น้ำยม หน้าวัดท่าบัวทอง
ตำบลโพธิ์ประทับช้าง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร

โดยแม่ทัพภาคที่ ๓ ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ประสานข้อมูลความร่วมมือกันในการแก้ปัญหาทั้งระยะเร่งด่วน และระยะยาว อีกทั้งได้มอบหมายให้มณฑลทหารบกในพื้นที่ และหน่วยระดับกองพล จัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ขึ้น เพื่อรับผิดชอบในแต่ละจังหวัด จำนวนทั้งสิ้น ๑๕ ศูนย์ ครอบคลุมทั้ง ๑๗ จังหวัดภาคเหนือ ระดมกำลังพลและเครื่องมือลงทุกพื้นที่ที่ประสบวิกฤตภัยแล้ง เพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ทั้งในพื้นที่เกิดวิกฤตรุนแรง และคาดว่าจะรุนแรงจนกว่าสถานการณ์ภัยแล้งจะคลี่คลาย อย่างไรก็ตามหน่วยทหารช่าง และหน่วยทหารพัฒนา กำลังเร่งกระจายลงพื้นที่ เพื่อขุดเจาะบ่อบาดาล ในพื้นที่จังหวัดที่สถานการณ์ภัยแล้งมีความรุนแรง ซึ่งในวันที่ ๒๒ มกราคม พ.ศ.๒๖๖๓ จะจัดเครื่องสูบน้ำ รวมทั้งรถบรรทุกน้ำและรถประปาสนาม แจกจ่ายน้ำอุปโภคและบริโภคให้ประชาชนในพื้นที่หมู่บ้านที่ขาดแคลนน้ำอย่างต่อเนื่อง สำหรับยุทโธปกรณ์ในภาพรวมทั้งหมดของ กองทัพภาคที่ ๓ มี รถบรรทุกน้ำ จำนวน ๑๑๑ คัน รถครัวสนาม จำนวน ๒๐ คัน รถขุดเจาะน้ำบาดาล จำนวน ๒ คัน รถผลิตน้ำดื่ม จำนวน ๒ คัน ชุดประปาสนามจำนวน ๕ ชุด ในปี ๒๕๖๓ ตั้งแต่ ตุลาคม ๒๕๖๒ ถึงปัจจุบัน ได้ดำเนินการแจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนผู้ประสบภัยแล้ง จำนวน ๖ จังหวัด ประกอบไปด้วยจังหวัดเชียงราย เพชรบูรณ์ อุทัยธานี อุตรดิตถ์, พิษณุโลก, และจังหวัดเพชรบูรณ์ ปริมาณน้ำ ๒๓๐,๐๐๐ ลิตร มีผู้ได้รับผลประโยชน์ ๑๘๑๑ ครัวเรือน ซึ่งแม่ทัพภาคที่ ๓ ได้กล่าวว่าสำหรับสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นนั้นในปีนี้ถือว่าเริ่มรุนแรงเนื่องจากน้ำต้นทุนในเขื่อนหลักมีจำนวนจำกัด หากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยแล้ง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้จากหน่วยงานทหารในพื้นที่ หรือ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ ๓ เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป จะติดต่อหน่วยงานราชการในพื้นที่เพื่อแก้ปัญหาต่อไป