การเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ในพื้นที่จังหวัดตาก
|
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎร รวม ๗ ครั้ง
๑. วันที่ ๒ - ๓ มีนาคม พ.ศ.๒๕๐๑
๒. วันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๐๔
๓. วันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๐๗
๔. วันที่ ๑๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๑๓
๕. วันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ.๒๕๑๖
๖. วันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ.๒๕๑๗
๗. วันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๒๑
|
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎร
เมื่อ วันที่ ๒ - ๓ มีนาคม พ.ศ.๒๕๐๑
" พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
เสด็จฯ โดยรถยนต์พระที่นั่งจากบริเวณเมืองสุโขทัยเก่าไปจังหวัดตาก
...ระหว่างทางนั้น ถนนขรุขระมาก รถยนต์พระที่นั่งกระเทือนถึงท่อไอเสียหลุด
แล่นต่อไปไม่ได้ บังเอิญรถยนต์พระที่นั่งไปเสียตรงศาลเทพารักษ์ เรียกกันว่า
ศาลเจ้าพ่อน้ำดิบ เสด็จทรงไปถวายสักการะศาลนั้น ทรงใช้กล้องถ่ายภาพยนตร์บันทึก
สภาพถนนไว้เป็นหลักฐาน รถพระที่นั่งชำรุดมาก จึงนำรถพระที่นั่งรองมาเปลี่ยน
แล้วจึงเสด็จต่อไปยังจังหวัดตาก เมื่อเสด็จฯ ถึงจังหวัดตาก หยุดทรงถวายราชสักการะ
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ ศาลตากสิน แล้วเสด็จฯ ไปประทับ
ณ บ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ซึ่งจัดถวายเป็นที่ประทับแรม "
" ราษฎรจังหวัดตากมาคอยเฝ้าบริเวณหน้าศาลตากสิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จจากที่ประทับ โดยรถยนต์พระที่นั่ง
เมื่อเสด็จขึ้นบนพลับพลา นายสง่า ชัยยานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก
กล่าวบังคมทูลพระกรุณาเบิกข้าราชการและราษฎรเข้าเฝ้า มีพระราชดำรัสแก่ราษฎร
และเสด็จลงพลับพลาทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้า ชาวจังหวัดตากนี้พวกเขาเริ่มมาเฝ้า
เป็นแห่งแรก ส่วนมากเป็นชนเผ่ามูเซอ ส่วนราษฎรจังหวัดตากนั้น รู้สึกมีความปิติยินดี
เป็นอย่างยิ่ง และกราบทูลละอองทุลีพระบาท บางคนก็เข้ามาลูบคลำพระวรกาย
ด้วยความจงรักภักดี พวกชาวเขามีของป่ามาถวาย เช่น กล้วยไม้ สัตว์ป่า และนก
โปรดเกล้าให้ราษฎรเฝ้าพระวรกายเป็นเวลา ๑ ชั่วโมงครึ่ง จากนั้นเสด็จพระราชดำเนิน
โดยรถยนต์พระที่นั่งจากศาลตากสิน ไปทอดพระเนตรกิจการเขื่อนภูมิพล เสด็จฯ ถึงที่ประทับ
ณ หัวงานกิจการเขื่อนภูมิพล ซึ่งจัดถวายเป็นที่ประทับแรม ปลัดกระทรวงเกษตรกราบบังคมทูล
นำอธิบดีกรมชลประทานเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ปลัดกระทรวงมหาดไทยกราบบังคมทูล
พระกรุณานำนายอำเภอบ้านตาก เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วนายอำเภอบ้านตากกราบบังคมทูล
พระกรุณานำข้าราชการและราษฎรเฝ้าฯ เสร็จแล้วเสวยพระกระยาหารกลางวัน
เสด็จฯ ทอดพระเนตรกิจการเขื่อนภูมิพล เสร็จแล้วเสด็จกลับที่ประทับ
เสวยพระสุธารสและพระกระยาหารค่ำ ณ ที่ประทับ "
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎร
เมื่อ วันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๐๔
" พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
เสด็จพระราชดำเนินยังสนามบินกองทัพอากาศดอนเมือง และประทับเครื่องบินพระที่นั่ง
เสด็จฯ ยังสนามบินเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก ในการทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์เขื่อนภูมิพล "
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎร
เมื่อ วันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๐๗
"พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
เสด็จพระราชดำเนินโดยเครื่องบินพระที่นั่งจากสนามบินจังหวัดเชียงใหม่
ไปทรงประกอบพิธีเปิดเขื่อนภูมิพล ณ จังหวัดตาก"
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎร
เมื่อ วันที่ ๑๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๑๓
"พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
เสด็จพระราชดำเนินออกณ บริเวณที่ประทับแรมเขื่อนภูมิพล
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ฉายพระบรมฉายาลักษณ์
ร่วมกับพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
แล้วเสด็จไปทรงปลูกต้นไม้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปลูกต้นสัก
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงปลูกต้นราชพฤกษ์
เสร็จแล้วเสด็จฯ ไปประทับเฮลิคอปเตอร์ ณ สนามกอล์ฟเขื่อนภูมิพล เพื่อเสด็จฯ
ไปทรงเยี่ยมราษฎรอำเภอแม่สอด แล้วเสด็จฯ ต่อไปยังอำเภออุ้มผาง
ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับผู้ที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จฯ พระราชทานพร
ให้เจ้าหน้าที่ทุกคนมีกำลังใจปฏิบัติราชการด้วยความกล้าหาญไม่ท้อถอย
แล้วพระราชทานของแก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ตำรวจ และกรมทาง ต่อจากนั้น
เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แพทย์ในขบวนเสด็จฯ
ทำการตรวจรักษาผู้ป่วยเจ็บ ณ บริเวณโรงเรียนอุ้มผาง
เสด็จฯ กลับจากอำเภออุ้มผาง ถึงสนามบินเขื่อนภูมิพล
ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่มาส่งเสด็จฯ
แล้วทรงเปลี่ยนพระราชพาหนะ ประทับเครื่องบินพระที่นั่ง
ออกจากสนามบินเขื่อนภูมิพล ถึงพระนครเวลา ๑๗.๓๐ น."
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎร
เมื่อ วันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ.๒๕๑๖
"พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
เสด็จฯ โดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งไปยังบ้านแม่ต้าน ตำบลแม่ต้าน
อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก เพื่อพระราชทานสิ่งของให้ผู้แทน
โรงเรียน ๕ โรงเรียน นำไปแจกนักเรียน และพระราชทาน
พันธุ์ข้าวโพดโปรตีนสูง ๒๐ ถุง และชุดแปรงสีฟัน ๕๐๐ ชุด
แก่นายอำเภอท่าสองยาง เพื่อนำไปแจกแก่ราษฎรชาวเขา
แล้วเสด็จขึ้นประทับบนพลับพลา ทอดพระเนตรการแสดงของนักเรียน
จากโรงเรียนต่างๆ ต่อจากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎร
ที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จฯ ในบริเวณนั้น ทรงมีพระราชปฏิสันถารโดยทั่วถึงกัน
และโปรดเกล้าฯให้แพทย์หลวงตั้งหน่วยตรวจรักษาและแจกยารักษาโรค
แก่ราษฎรที่เจ็บป่วย แล้วประทับรถยนต์พระที่นั่งไปยังเมืองโบราณริมแม่น้ำเมย
ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถ ทรงลงพระปรมาภิไธยและพระนามาภิไธยในสมุดเยี่ยม
และพระราชทานสิ่งของ แก่นายสมศักดิ์ อนันทะยะ และนายสุธรรม ชูสกุล
เจ้าหน้าที่กรมเร่งรัดพัฒนาชนบท ซึ่งได้รับบาดเจ็บระหว่างปฏิบัติหน้าที่
จากการจู่โจม
ของผู้ก่อการร้าย เมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๕
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
พระราชทานดอกไม้ธูปเทียนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำไปนมัสการพระธาตุเมืองเก่า
จากนั้นเสด็จฯ โดยรถยนต์พระที่นั่งกลับไปยังสนามกีฬา
แล้วเสด็จพระราชดำเนินโดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งไปยังบ้านสบเมย
อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน"
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎร
เมื่อ วันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ.๒๕๑๗
" พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี
และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์
ประทับเครื่องบินพระที่นั่ง ไปทรงเยี่ยมราษฎรที่บ้านส้มป่อย
และบ้านห้วยปลาหลด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ก่อนเสด็จฯ
แปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ ภูพิงคราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่ "
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎร
เมื่อ วันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๒๑
" พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์
จากพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ไปยังท่าอากาศยานจังหวัดเชียงใหม่
เพื่อประทับเครื่องบินแอฟโร่พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมสมาชิกศูนย์
ช่วยเหลือชาวเขาบ้านเจดีย์โคะ พระราชทานธงประจำรุ่นลูกเสือชาวบ้าน
ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานกระแสพระราชดำรัส ความว่า
" การที่ลูกเสือชาวบ้านได้ร่วมทบทวนคำปฏิญาณว่า จะทำประโยชน์ต่อผู้อื่นทุกเมื่อนั้น
หมายความว่า พร้อมเพรียงที่จะทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม
คือคนไทยทุกคน ซึ่งการฝึกอบรมนั้นเป็นการเรียนรู้สิ่งใหม่และทบทวนสิ่งที่รู้อยู่แล้ว
เพื่อนำความรู้ที่ดีมาปฏิบัติซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นการเสริมสร้างให้มีความก้าวหน้า
ในส่วนตัวและส่วนรวม อันจะนำมายังความผาสุกของทุกๆ คน "
ทรงประกอบพิธีตัดลูกนิมิตอุโบสถวัดเวฬุวัน และทรงเยี่ยมราษฎร ณ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก "
|